วันนี้ กินพุงกาง แจกสูตร “แกงคั่วหอยขม” เป็นแกงโบราณ มีส่วนผสมหลักอย่างหอยขม กับเครื่องแกงหอมๆ เป็นสูตรที่แบ่งปันโดย คุณbyครัวห้องเต้ สูตรนี้อร่อยไม่ต้องง้อร้านดังกันเลย กลมกล่อมหอมเครื่องแกงมาก ๆ มาดูวัตถุดิบกันเลยจ้า
วัตถุดิบและส่วนผสม
1.หอยขมสด 2 กิโลกรัม / 2.พริกแกงเผ็ด 200 กรัม / 3.ใบชะพลู 100 กรัม (หั่นขนาดพอดี) ผักแน่นๆ / 4.ใบชะอม 100 กรัม (เด็ดยอด) ผักแน่นๆ / 5.ยอดมะพร้าวอ่อน 300 กรัม (หั่นขนาดพอดี) ผักแน่นๆ / 6.หัวกะทิสด (500 mL) 1 กล่อง / 7.น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ / 8.น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 9.ผงปรุงอาหารรสดี 1 ½ ช้อนโต๊ะ / 10.น้ำมันพืช 3 ½ ช้อนโต๊ะ (ไว้ผัดกับพริกแกง) / 11.น้ำเปล่า 1 ½ ถ้วยตวง (ไว้เติมตอนที่ผัดพริกแกงกะทิจะงวด) / 12.เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ ( สำหรับแช่หอยขมสดและต้ม )
วิธีทำ ก่อนปรุง
1.นำหอยขมสด 2 กิโลกรัม ล้างน้ำให้สะอาดและใส่เกลือ 1ช้อนโต๊ะ แช่พักไว้ประมาณ 5 นาที เทน้ำทิ้งออกพักไว้ ครับ
2.ตั้งหม้อแยกต้มน้ำให้เดือดมากๆแล้วใส่เกลือคนหม้อให้ทั่วหลังจากนั้นให้นำหอยขมสดที่ล้างไว้แล้วเทลงให้หมดทีเดียวคนให้ทั่วหม้อทิ้งไว้ 3 นาที ตักขึ้นและเทลงน็อคในน้ำแข็งเย็น1-2นาทีพักไว้ครับ
3. เหตุผลที่ไม่ให้ต้มนานเกิน3นาที ในน้ำเดือดนั้นเพราะหอยขมสุกไวถ้าต้มนานจะทำให้หอยขม หดตัว เล็กลง ครับ
4.เทคนิคการจิ้มหอยขมให้ได้ตัวหอยออกมาทั้งตัว คือ นำไม้จิ้มฟันจิ้มลงตรงไปในหัวหอยขมแล้วหมุนตัวหอยตามเข็มนาฬิกา จะได้หอยขมออกมาทั้งตัวแทนที่จะได้เฉพาะหัวของหอยขม ครับ หลังจากนั้นค่อยเลือกลูกหอยเล็กๆออกจากตัวหอยเพื่อความสะอาดครับ
วิธีทำระหว่างปรุง
1.เริ่มตั้งกระทะโดยใช้ไฟอ่อนหรือไฟกลางครับพอกระทะร้อนได้ที่ให้ใส่น้ำมันพืชที่เตรียมไว้ลงไปและตามด้วยพริกแกงค่อยผัดให้เข้ากันจนหอมครับ
2.หลังจากนั้นให้นำหัวกะทิเทใส่ลงไปไม่ต้องใส่จนหมดทีเดียวครับค่อยๆผัดและเคี่ยวจนกะทิแตกมันครับ
3.เมื่อกะทิแตกมันได้ที่แล้วเติมหางกะทิและน้ำเปล่าที่เตรียมไว้เทลงไปค่อยๆคนให้ทั่วเบาๆครับ (หางกะทิ คือ หัวกะทิผสมน้ำเปล่า)
4.เมื่อกะทิและพริกแกงเดือดได้ที่แล้วค่อยนำหอยขมเทใส่ลงไปเลยตามด้วย ยอดมะพร้าวอ่อน ใบชะพลู ชะอม คนให้ส่วนผสมเข้ากันดี ทิ้งไว้สัก
5. หลังจากเมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วให้ทำการปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ผงปรุงอาหารรสดี และคนให้เข้ากันอีกครั้ง เมื่อได้รสชาติที่ต้องการแล้วจากนั้นคนให้เข้ากันอีกครั้งปิดไฟพร้อมจัดเสิร์ฟครับ
เรียบเรียงโดย กินพุงกาง
ขอบคุณภาพและสูตร byครัวห้องเต้ ขอบคุณครับ / ขอบคุณภาพ จงกลณี ม่วงศรี(ครัวคุณแม่)
