วันนี้ กินพุงกาง แจกสูตร ขนมหม้อแกง เป็นขนมโปรดของใครหลายๆคน ตอนเด็กๆ ไม่ชอบทานเพราะไม่ชอบกลิ่นหอม แต่โตแล้วดันชอบกินเพราะหอมและอร่อย สูตรนี้ทำง่ายมากๆ ใครได้ทานเป็นต้องติดใจ สามารถต่อยอดทำขายได้เลย ไปดูวิธีทำกันเลยค่ะ
ส่วนผสม
ถั่วเขียวซีกเลาะเปลือกนึ่งสุก 250 g
ไข่เป็ด เราไม่มีใช้ไข่ไก่แทน 8 ฟอง
น้ำตาลปี๊บ เราไม่มีใช้น้ำตาลทราย 200 g
กลิ่นใบเตย 1 ชช
กะทิ เราใช้กะทิกระป๋อง 1 กระป๋อง 400ml
หอมแดง ซอยผึ่งลม มาก น้อยแล้วแต่ความชอบ
น้ำมันพืช
ขั้นตอน
-นำถั่วเขียวซีกเลาะเปลือกไปล้างทำความสะอาด แล้วแช่ทิ้งไว้ 2 – 3 ชม.จนถั่วขึ้นดีแล้วนำไปใส่ผ้าขาวบางนึ่งให้สุก วิธีดูถั่วสุกดีก็ให้ใช้มือบี้เม็ดถั่วดูคะ
-ระหว่างรอถั่ว เราก็มาซอยหอมแดงผึ่งลมไว้คะ เพื่อที่เวลาทอดหอมจะกรอบ และน้ำมันไม่กระเด็น
-ผึ่งหอมไว้สัก 2-3 ชม. เราก็มานึ่งถั่ว และก็เจียวหอมกันคะ การเจียวหอมต้องใช้ไฟอ่อนมาก และก็ใจเย็น ต้องค่อยๆ เกลี่ยหอมที่เริ่มเหลืองก่อนไปไว้ขอบกะทะ ไม่อย่างงั้นชิ้นที่เหลืองก่อนจะไหม้ขมคะ
-พอหอมสุกเหลืองดีก็นำมากรองแยกน้ำมันกับหอมเจียวออกคะ นำหอมเจียวไปซับน้ำมันให้แห้ง เราพลาดตรงที่ทิ้งหอมไว้บนกระดาษที่ชุ่มน้ำมันหอมเจียวเลยไม่กรอบคะ
-หลังจากนั้นมาดูถั่วที่นึ่งไว้คะ พอถั่วสุกดีก็นำมาบดด้วยช้อน บดหยาบๆ แต่ของเรารู้สึกจะหยาบไปยังเป็นเม็ดอยู่เลย
-เสร็จแล้วมาต่อยไข่ใส่ชามผสม หยดน้ำใบเตยลงไป หรือใครมีเตยสดก็น้ำใบเตยลงไปขยำกับไข่ได้เลยคะ ใส่น้ำตาลลงไปขยำให้น้ำตาลละลายแตกตัวดี ใส่กะทิลงไป ตีให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำไปกรอกด้วยผ้าขาวบางและกระช้อน 1 รอบคะ
-เสร็จแล้วเติมถั่วบดลงไป ขยำให้ถั่วแตกตัวดี ไม่ติดกันเป็นก้อน
-หลังจากนั้นก็นำไปกวนบนกะทะตั้งไฟอ่อนๆ กวนไปเรื่อยๆ อย่าหยุดมือนะคะ และระวังขนมจะไหม้ที่ก้นและขอบกะทะ ต้องคนๆ ปาดๆ ตลอดเวลาคะ จนกว่าเนื้อขนมจะข้นเป็นเนื้อครีม
-พอได้เนื้อขนมที่ข้นดีแล้วก็นำพิมพ์ขนมมาทาน้ำมันหอมเจียวที่เตรียมไว้ให้ทั่วพิมพ์คะ
-ใส่ขนมลงไปจนหมด ยกพิมพ์กระแทกเบาๆ สัก 2-3 ครั้งให้เนื้อขนมเซ็ตตัว นำเข้าเตาอบ เราใช้ไฟ 180 องศา 45 นาทีคะ ใช้กะเอานะคะเพราะเตาแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน ก็มั่นดูขนมเอาคะว่าสุกเหลืองดีแค่ไหน
-พอขนมสุกได้สัก 80% นำออกมาทาน้ำมันหอมเจียวที่เหลือแล้วนำเข้าเตาอบอีกครั้ง
-ขนมสุกดีก็นำออกจากเตาพักไว้ให้เย็นแล้วเกะออกจากพิมพ์
-ตัดขนมแล้วโรยหน้าด้วยหอมแดง
-เสร็จพร้อมทานคะ ขนมหม้อแกงครั้งแรก
ไม่อนุญาติให้คัดลอกบทความ เรียบเรียงโดย กินพุงกาง
ขอบคุณข้อมูลภาพและสูตร คุณ Wanvipa Lek